วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2554

ตารางหมู....



ตารางผสมพันธุ์หมูโดยใช้น้ำยายีนส์
(*ต้องทำการใช้น้ำยายีนส์กับแม่พันธุ์หมูก่อนที่จะผสมพันธุ์กับพ่อหมูพันธุ์พิเศษ*)
1.หมู จินหัว+ยายีนส์ใหม่ = หมูไข่ทองคำ (เป็นหมัน )
2.หมูซานหยวน+ยายีนส์ใหม่ =หมูยักเขียว(เป็นหมัน )
3.หยงชาง+ยายีนส์ใหม่ =หมูป่า (เป็นหมัน )
4.หมูชางป่าย+ยายีนส์ใหม่ =หมูจันทร์ฟ้า (เป็นหมัน)
5.หมูลูกแกะ+ยายีนส์ใหม่ =หมูลูกขน
6.หมูยอคเชียร์+ยายีนส์ใหม่ = หมูเทวดาทองคำ
7.หมูเพียเทรน+ยายีนส์ใหม่ = หมูนักรบ
8.หมูแฮมเชียร์+ยายีนส์ใหม่ = หมูฟ้าแลบ
9.หมูเดกคา+ยายีนส์ใหม่ = หมูสกีดำน้ำ
10หมูนมวัว+ยายีนส์ใหม่ = หมูจีโล
11.หมูปีปี้โล+ยายีนส์ใหม่ = หมูเซีย ยุ่น เอิน
12.หมูแมวหมูน้อย+ยายีนส์ใหม่ = เสือหมูน้อย
13.หมูหมาหมูน้อย+ยายีนส์ใหม่ = หมาป่าหมูน้อย


อันนี้เป็น ตารางผสม หมูนะ สำหรับคนที่ ยังไม่รู้ เผื่อจะได้ ผลประโยชน์ กัน
ซานหยวน + จีโล่ ได้ จันทร์ฟ้า
แฮมเชียร์ + ฟ้าแลบ ได้ ยักษ์สีเขียว
แฮมเชียร์ + ทองคำเทวดา ได้ หมูป่า
นมวัว + จีโล ได้ หมูป่า
นมวัว + จีโล ได้ จันทร์ฟ้า
จินหัว + ลูกขน ได้ ยักษ์สีเขียว แล้วก็ลูกจินหัวคลอดออกมาเป็นตัวเมีย
หยงซาง + ลูกขน ได้ หมูยักษ์เขียว
ซานหยวน + ลูกขน ได้ จันทร์ฟ้า
ซานหยวน + จีโล่ ได้ จันทร์ฟ้า
ฉางปาย + จิโล่ ได้ ยักเขียว
ฉางปาย + จิโล่ ได้ หมูป่า
ยอร์คเชียร์ + ลูกขน ได้ จันทร์ฟ้า
ยอร์คเชียร์ + จีโล ได้ หมูป่า
ยอร์คเชียร์ + ฟ้าแลบ ได้ ไข่ทอง
ยอร์คเชียร์ + เทวดาทองคำ ใส่ยาบำรุงเข้าไปผลได ้เทวดาทองคำ1/จันฟ้า1/ยอคเชียร์พันทาง1
ยอร์คเชียร์ + ลูกขน ได้ ไข่ทอง
ยอร์คเชียร์ + ลูกขน ได้ จันฟ้า
แกะ + ลูกขน ได้ ลูกขน
เเม่หมูเเกะ + พ่อหมูลูกขน ได้ หมูจันฟ้า
แฮมเชียร์ + ฟ้าแลบ ได้ ยักษ์เขียว
แฮมเชียร์ + ฟ้าแลบ ได้ หมูป่า
แฮมเชียร์ + ฟ้าแลบ ได้ หมูไข่ทอง
แฮมเชียร์ + ทองคำเทวดา ได้ หมูป่า
แฮมเชียร์ + ลูกขน ได้ หมูป่า
แฮมเชีย + ลูกขน ได้ หมูไข่ทอง
แฮมเชียร์ + เซี่ย ยุ่น เอิน ได้ หมูยักษ์เขียว
นมวัว + จีโล ได้ หมูป่า
นมวัว + จีโล ได้ จันทร์ฟ้า
นมวัว + จีโล่ ได้ ยักเขียว
นมวัว + ฟ้าแลบ ได้ จันทร์ฟ้า
* ลูกหมูที่ได้จากการผสมพิเศษ ถ้าไม่ได้หมูพิเศษ ( สีฟ้า เขียว แดง ทอง )
จะมีราคา 7,000 ขึ้นไป ให้เราขายเลย เพราะถ้าเลี้ยงไปราคาลงเหลือไม่กี่ร้อย
ขายเอาทุนค่าผสม+กำไรนิดหน่อยดีกว่า
ปล.ควรเลือกผสมพ่อพันธุ์ที่มีราคาผสมถูกๆจะทำให้ขายได้กำไรเพิ่มมาอีกนิด




อันนี้ อัพเลเวล นะครับ ไปยืมเค้ามาเหมือนกัน เอามาไห้ดูกันนะครับ
LV.2 3ตัว 5เหรียญ 7,500G (2,511) จินหัวตัวเมีย*1
LV.3 3ตัว 12เหรียญ 10,011G (2,546) ยาโตไวเบอร์หนึ่ง*1
LV.4 3ตัว 21เหรียญ 12,557G (2,625) รำ*50
LV.5 3ตัว 32เหรียญ 15,182G (2,764) ข้าวโพด*50
LV.6 3ตัว 45เหรียญ 17,946G (2,979) รำ*100
LV.7 3ตัว 60เหรียญ 20,925G (3,290) รำ*150
LV.8 3ตัว 77เหรียญ 24,215G (3,710) ข้าวโพด*100
LV.9 4ตัว 96เหรียญ 27,925G (4,261) หมูหยงชางตัวเมีย*1
LV.10 4 ตัว 117เหรียญ 32,186G (4,956) ยากันโรค*1


LV.11 5ตัว 140เหรียญ 37,142G (5,715) ยาระบาย*1
LV.12 5ตัว 165เหรียญ 42,857G (6,554) โอ๊ตมีล*120
LV.13 6ตัว 192เหรียญ 49,411G (7,589) เกลือ*15
LV.14 6ตัว 221เหรียญ 57,000G (8,840) หมูดอกเหลียงกว่าง*1
LV.15 7ตัว 252เหรียญ 65,840G (10,320) เครื่องเทศหอม*15
LV.16 7ตัว 285เหรียญ 76,160G (12,051) หมูขาวลายดอกใหญ่*1
LV.17 8ตัว 320เหรียญ 88,211G (14,046) ยาบำรุงครรภ์*1
LV.18 8ตัว 357เหรียญ 102,257G (16,325) ยาเร่งคลอดเบอร์หนึ่ง*1
LV.19 9ตัว 396เหรียญ 118,582G (18,904) ยาเพิ่มพลังเบอร์หนึ่ง*1
LV.20 9ตัว 437เหรียญ 137,486G (21,799) ยาบำรุงครรภ์*1


LV.21 10ตัว 480เหรียญ 159,285G (25,030) โอ๊ตมีล*200
LV.22 10ตัว 525เหรียญ 184,315G (28,610) ยาปรับยีน*1
LV.23 11ตัว 572เหรียญ 212,925G (32,561) ซีอิ้วพร่องมันเนย*20
LV.24 11ตัว 621เหรียญ 245,486G (36,896) หมูแฮมเชียร์*1
LV.25 12ตัว 672เหรียญ 282,382G (41,635) กุหลาบ*1
LV.26 12ตัว 725เหรียญ 324,017G (46,794) ยาอายุยืน*1
LV.27 13ตัว 780เหรียญ 370,811G (52,389) วิตามิน *100
LV.28 13ตัว 837เหรียญ 423,200G (58,440) วิตามิน*150
LV.29 14ตัว 896เหรียญ 481,640G (64,960) นมสด*1
LV.30 14ตัว 957เหรียญ 546,600G (71,971) พุทราจีน*20


LV.31 15ตัว 1,020เหรียญ 618,571G (79,486) หมูเพียเทรน*1
LV.32 15ตัว 1,085เหรียญ 698,057G (87,525) หมวกปีกใหญ่*1
LV.33 16ตัว 1,152เหรียญ 785,582G (96อ104) หมวกคริสมาส*1
LV.34 16ตัว 1,221เหรียญ 881,686G (105,239) หมวกลูกเรือ*1
LV.35 17ตัว 1,292เหรียญ 986,925G (114,950) หมูแฮมเชีย*1
LV.36 17ตัว 1,365เหรียญ 1,101,875G (125,250) การ์ดใส่ร้าย*1
LV.37 18ตัว 1,440เหรียญ 1,227,125G (136,161) ใบรับรอง*1
LV.38 18ตัว 1,517เหรียญ 1,363,286G (147,696) ยาบำรุงครรภ์*1
LV.39 19ตัว 1,596เหรียญ 1,510,982G (159,875) หมูเดกคา*1
LV.40 19ตัว 1,677เหรียญ 1,670,857G (172,714) นมสด*3 + วิตามิน*100


LV.41 20ตัว 1,760เหรียญ 1,843,571G (186,229) กุญแจ*1
LV.42 20ตัว 1,845เหรียญ 2,029,800G (200,440) พุทราจีน*24
LV.43 21ตัว 1,932เหรียญ 2,230,240G (215,360) กระทิงแดง*1
LV.44 21ตัว 2,021เหรียญ 2,445,600G (231,011) หมูนมวัว*1
LV.45 22ตัว 2,112เหรียญ 2,676,611G (247,406) แว่นฟ้า*1
LV.46 22ตัว 2,205เหรียญ 2,924,017G (264,565) แว่นแดง*1
LV.47 23ตัว 2,300เหรียญ 3,188,582G (282,504) ยาเร่งโตเบอร์สอง*1
LV.48 23ตัว 2,397เหรียญ 3,471,086G (301,239) เพิ่มพลังเบอร์สอง*1
LV.49 24ตัว 2,496เหรียญ 3,772,325G (320,790) 2*1
LV.50 24ตัว 2,597เหรียญ 4,093,115G (341,170) หมูสำเภาเงิน*


LV.51 25ตัว 2,700เหรียญ 4,434,285G (362,401) ผมเอววิส*1 (ได้หมวกลูกเรือ)
LV.52 25ตัว 2,805เหรียญ 4,796,686G (384,496) รำ*500
LV.53 26ตัว 2,912เหรียญ 5,181,182G (407,475) รำ*700
LV.54 26ตัว 3,021เหรียญ 5,588,657G (431,354) ข้าวโพด*500
LV.55 27ตัว 3,132เหรียญ 6,020,011G (456,149) ข้าวโพด*700
LV.56 27ตัว 3,245เหรียญ 6,476,160G (481,880) หมูเพียเทรนตัวเมีย*1
LV.57 28ตัว 3,360เหรียญ 6,958,040G (508,560) สร้อย*3
LV.58 28ตัว 3,477เหรียญ 7,466,600G (536,211) นมสด*3
LV.59 29ตัว 3,596เหรียญ 8,002,811G (564,846) โสม*5
LV.60 29ตัว 3,717เหรียญ 8,567,657G (594,485) ยาอายุยืน*5


LV.61 30ตัว 3,840เหรียญ 9,162,142G (625,144) หมูแพนด้า(30)*1
LV.62 30ตัว 3,965เหรียญ 9,787,286G (656,839) หมูแฮมเชียร์ตัวเมีย*1
LV.63 30ตัว 4,092เหรียญ 10,444,125G (689,590) ยาบำรุงครรภ์*2
LV.64 30ตัว 4,221เหรียญ 11,133,715G (723,410) นมสด*6 + วิตามิน*200
LV.65 30ตัว 4,352เหรียญ 11,857,125G (758,321) การ์ดใส่ร้าย*3
LV.66 30ตัว 4,485เหรียญ 12,615,446G (794,336) ใบรับรอง*3
LV.67 30ตัว 4,620เหรียญ 13,409,782G (831,475) ยาเร่งคลอด*3
LV.68 30ตัว 4,757เหรียญ 14,241,257G (869,754) หมูเดกคาตัวเมีย*1
LV.69 30ตัว 4,896เหรียญ 15,111,011G (909,189) กระทิงแดง*2
LV.70 30ตัว 5,037เหรียญ 16,020,200G (949,800) ยาเร่งโตเบอร์สอง*2


LV.71 30ตัว 5,180เหรียญ 16,970,000G (991,600) 2*2
LV.72 30ตัว 5,325เหรียญ 17,961,600G (1,034,611) หมูทองเป็นหมัน*1
LV.73 30ตัว 5,472เหรียญ 18,996,211G (1,078,846) หมูป่าเป็นหมัน*1
LV.74 30ตัว 5,621เหรียญ 20,075,057G (1,124,325) หมูยักษ์เขียวเป็นหมัน*1
LV.75 30ตัว 5,772เหรียญ 21,199,382G (1,171,064) หมูจันทร์ฟ้าเป็นหมัน*1
LV.76 30ตัว 5,925เหรียญ 22,370,446G (1,219,079) โสม*10
LV.77 30ตัว 6,080เหรียญ 23,589,525G (1,268,390) วิตามิน*1000
LV.78 30ตัว 6,237เหรียญ 24,857,915G (1,319,010) นมสด*9 + วิตามิน*300
LV.79 30ตัว 6,396เหรียญ 26,176,925G (1,370,961) กระทิงแดง*3
LV.80 30ตัว 6,557เหรียญ 27,547,886G (1,424,256) ยาเร่งโตเบอร์หนึ่ง*5


LV.81 30ตัว 6,720เหรียญ 28,972,142G (1,478,915) ยาเร่งคลอดเบอร์หนึ่ง*5
LV.82 30ตัว 6,885เหรียญ 30,451,057G (1,534,954) รำ*1000
LV.83 30ตัว 7,052เหรียญ 31,986,011G (1,592,389) รำ*1500
LV.84 30ตัว 7,221เหรียญ 33,578,400G (1,761,240) ข้าวโพด*1000
LV.85 30ตัว 7,392เหรียญ 35,339,640G (1,601,520) ข้าวโพด*1500
LV.86 30ตัว 7,565เหรียญ 36,941,160G 1,773,251) ยาเร่งโตเบอร์สอง*3
LV.87 30ตัว 7,740เหรียญ 38,714,411G (1,836,446) 2*3
LV.88 30ตัว 7,917เหรียญ 40,550,857G (1,901,126) เพิ่มพลังเบอร์สอง*3
LV.89 30ตัว 8,096เหรียญ 42,451,983G (1,967,303) หมูเทวดาทองคำ*1
LV.90 30ตัว 8,277เหรียญ 44,419,286G (4,139,229) หมูนักรบ*1


LV.91 30ตัว 8,460เหรียญ 48,558,515G (2,175,010) หมูฟ้าแลบ*1
LV.92 30ตัว 8,645เหรียญ 50,733,525G (2,247,361) หมูสกี*1
LV.93 30ตัว 8,832เหรียญ 52,980,886G (2,321,296) ยาบำรุงครรภ์*5
LV.94 30ตัว 9,021เหรียญ 55,302,182G (2,396,835) วิตามิน*2000
LV.95 30ตัว 9,212เหรียญ 57,699,017G (2,473,994) กระทิงแดง*8
LV.96 30ตัว 9,405เหรียญ 60,173,011G (2,552,789) ยาเร่งโตเบอร์สอง*5
LV.97 30ตัว 9,600เหรียญ 62,725,800G (2,633,240) ยาเร่งคลอดเบอร์สอง*5
LV.98 30ตัว 9,797เหรียญ 65,359,040G (2,715,360) ยาปรับยีน*2
LV.99 30ตัว 9,996เหรียญ 68,074,400G (2,799,171) ใบรับรอง*10
LV.100 30ตัว 10,197เหรียญ 70,873,571G หมูสำเภาเงินสามสิบห้าวัน*1


LV.101 ใบรับรอง*5 สาชิน*8
LV.102 หมูเบิร์คไซร์*1 รำหยาบ*500
LV.103 เบียร์*2 ใบรับรอง* สารชิน*5
LV.104 หมูเพียรเทรน*1 ข้าวโพด*500
LV.105 อาหารเสริมพลังงาน*5 ข้าวโพด*700
LV.106 หมูนมวัว*1 กุหลาบ*2
LV.107 สร้อยคริสตัล*3 รำหยาบ*1000
LV.108 นสด*3 ข้าวโพด*1000
LV.109 โสม1000ปี*3 ไข่ไก่*1000
LV.110 ยาเม็ดอายุยืน*3 หมวกลูกเรือ*1


LV.111 ยาเร่งโตเบอร์1*5 ยาป้องกันโรคระบาด*10
LV.112 หมูแฮมเชียร์*1 รำหยาบ*1000
LV.113 ยาบำรุงครร*3 เย็นซ่าถึงใจ*2
LV.114 ใบรับรอง*3 การ์ดใส่ร้าย*3
LV.115 หมูออพติมัส ไพรม*1 ยาจีนเก๋ากี่้*20
LV.116 ใบรับรองสุขภาพ*3 เบียร์*3
LV.117 ยาเพิ่มกำลังหมู1*3 หมูลอร่า*1
LV.118 วิตามิน*500 หมูเดกคา*1
LV.119 ยาป้องกันโรคระบาด*5 อาหารเสริมหมูแดง*2
LV.120 ยาเร่งโตเบอร์2*2 หมูปี้ปี้โล*1


LV.121 ยาเร่งคลอดเบอร์2*2 ยาบำรุงครรภ์*2
LV.122 หมูนมวัว*1 ขนมไหว์พระจันทร์*10
LV.123 โสมพันปี*10 หมวกปีกใหญ่*1
LV.124 หมูนมวัว*1 แว่นกันแดดสีแดง*1
LV.125 หมูซุปเปอร์แมน*1 โปรตีน*1000
LV.126 หมูปี้ปี้โล*1 ยาถ่าย*5
LV.127 อาหารเสริมหมูแดง*3 สายไหม*10
LV.128 หมูสับปะรด*1 สตรเบอรี่*3
LV.129 หมูปู้ปู้*1 ยาเร่งโตไวเบอร์1*5
LV.130 หมูองุ่น*1 ไหม*5


LV.131 หนังฟอก*10 ยาเพิ่มกำลังหมูเบอร์1*5
LV.132 หมูเชอรี่*1 โสมพันปี*3
LV.133 ยาเร่งโตไวเบอร์2*3 น้ำตาลทราย*5
LV.134 หมูสไปร์เดอร์แมน*1 ข้าวไพด*1500
LV.135 ยาเร่งคลอดเบอร์2*3 ไข่ไก่*1500
LV.136 หมูค้างคาว*1 โปรตีน*1500
LV.137 น้ำผลไม้*3 แว่นกันแดดสีดำ*1
LV.138 หมูไอร่อนแมน*1 ยาบำรุงครรภ์*2
LV.139 ยายีนใหม่*1 ยาเพิ่มกำลังหมูเบอร์2*1

วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

คำศัพท์ เกี่ยวกับสนามบิน


คำศัพท์เกี่ยวกับการเดินทางโดยใช้เครื่องบิน
1. GATE  :  ประตูเข้าออกระหว่างอาคารและเครื่องบิน
2. FLIGHT :  เที่ยวบินของสายการบิน
3. INTERNATIONAL FLIGHT  :  สายการบินระหว่างประเทศ
4. DOMESTIC FLIGHT   :  สายการบินภายในประเทศ
5. CONNECT FLIGHT     :  การต่อเที่ยวบิน
6. PASSENGER :  ผู้โดยสารสายการบิน
7. TRANSIT PASSENGER             :   ผู้โดยสารที่แวะลมสนามบินแห่งใดแห่งหนึ่งเพื่อทำการ เปลี่ยนเครื่องโดยไม่แวะเข้าอยู่ในประเทศหรือเมืองนั้นๆ
8. BOARDING PASS       :  เอกสารระบุเลขที่นั่งใช้สำหรับผ่านเข้าเขตผู้โดยสารขาออกและขึ้นเครื่องบิน
9. SMOKING AREA :  ที่นั่งในเครื่องบินที่อยู่ในเขตที่สามารถสูบบุหรี่ได้ หรือ หมายถึงบริเวณที่ถูกจัดให้เป็นที่สูบบุหรี่ได้ภายในอาคารหรือสนามบิน
10. NON-SMOKING AREA           :  ที่นั่งในเครื่องบินที่อยู่ในเขตที่ไม่สามารถสูบบุหรี่ได้หรือหมายถึง บริเวณทั่วไปที่อยู่ภายในอาคารสนามบินที่ไม่อนุญาตให้มีการสูบบุหรี่
11. PORT OF ENTRY       :  ด่านตรวจคนเข้าเมืองด่านแรกที่เดินทางไปสหรัฐอเมริกา
12. IMMIGRATION OFFICER   :  เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ทำการตรวจเอกสารวีซ่า
13. CUSTOM      :  ศุลกากร ทำหน้าที่ตรวจเช็ก สัมภาระที่นำติดตัวเข้าประเทศ
14. AIRPORT LIMOUSINE/BUS :  รถของสนามบินพาเข้าไปส่งที่สถานสำคัญ ๆ หรือโรงแรมใหญ่ ๆ ในตัวเมืองหรือสถานีรถโดยสารประจำทาง
15. TERMINAL  :  ตัวอาคารในสนามบินที่มีสถานที่ทำการของบริษัทสายการบินต่าง ๆ ตั้งอยู่ และมีสถานปฏิบัติการที่สำคัญที่ส่งข่าวเกี่ยวกับการบิน เช่น หอบังคับการบิน ในสหรัฐอเมริกา สนามบินแต่ละแห่งกว้างใหญ่มากจึงแบ่ง TERMINAL ออกเป็นเขตๆ คือ A B C D หรือ 1 2 3 4 และแต่ละเขตจะมีที่ทำการของบริษัทการบินที่ตกลงกันไว้ตั้งอยู่
16. RESERVATION CODE            :  รหัสบันทึกข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสารในการเดินทางครั้งหนึ่งๆ
17. VOUCHER   :  เอกสารสำหรับได้รับบริการฟรีที่ไม่ต้องเสียเงิน บริการฟรีนั้นอาจเป็นด้านโรงแรม หรือบริการรถรับส่งระหว่างโรงแรมกับสนามบิน แล้วแต่สายการบินจะให้ผู้โดยสาร ในบางกรณี อาจหมายถึงเอกสารการจองโรงแรมล่วงหน้า ที่ชำระเงินล่วงหน้าไว้เรียบร้อยแล้ว
18. BAGGAGE CLAIM AREA      : บริเวณรับกระเป๋าเดินทางที่สนามบินปลายทาง ในบางแห่งหมายรวมถึงจุดแจ้งกระเป๋าเดินทางหาย
19. LOST AND FOUND  : จุดแจ้งกระเป๋าเดินทางหาย
20. CAROUSEL : สายพานหรือรางเลื่อนรับ/ส่ง กระเป๋า
21. FREE AIRPORT SHUTTLE     : รถรับส่งระหว่าง TERMINAL ภายในสนามบินที่ให้บริการฟรี

5 อันดับสนามบินที่ดีที่สุด...


1.Singapore Changi Airport (สนามบินชางงีสิงคโปร์)

นับตั้งแต่เริ่มมีการโหวตสนามบิน น่านอนหรือ ดีที่สุดสำหรับการนอนรอขึ้นเครื่องเมื่อ 12 ปีก่อน ตราบจนกระทั่งปัจจุบัน ยังไม่เคยมีสนามบินใดล้มแชมป์ความน่านอนของสนามบินชางฮีลงได้
ทุกครั้งที่นักเดินทางมาเยือนสนามบิน แห่งนี้ จะต้องรู้สึกแฮปปี้เมื่อได้พบกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ทางสนามบินเตรียมไว้ให้ใน คลับชางฮีไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้สำหรับนอนงีบที่แสนสะดวกสบาย และได้รับการออกแบบขึ้นเป็นพิเศษสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการนอนรอขึ้นเครื่อง (หรือนอนค้าง) โดยเฉพาะ

นอกจากนี้ ยังมีอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ห้องสวดมนต์ ร้านค้า ร้านอาหาร สระว่ายน้ำ จากุชชี่ สปา วิดีโอเกมส์ บริการ WiFi และอินเตอร์เน็ตฟรี ชมภาพยนตร์ฟรี บริการนำเที่ยวแบบซิตี้ทัวร์ฟรี บริการนวดตลอด 24 ช.ม.  เท่านั้นยังไม่พอ ภายในสนามบินยังกล่าว ยังมีบิสสิเนส เซ็นเตอร์ที่เปิดบริการตลอด 24 ช.ม. มีการบรรเลงดนตรีสด  มิวสิค เลาน์จ คาราโอเกะ และสวนหย่อมอีก 6 สวน พร้อมมุมสงบสำหรับนอนพักผ่อนอย่างเป็นกิจลักษณะ (napping corner)
นักเดินทางบางกลุ่มถึงกับแนะนำว่า ถึงแม้จะมีสตางค์เหลือเฟือก็น่าจะลองนอนค้างที่สนามบินชางฮีดูสักครั้ง เพราะที่นั่นทั้งสะดวกสบาย สะอาด เงียบสงบ และยังปลอดภัยสุดๆ

 





2.Incheon International Airport (สนามบินนานาชาติอินชอน – ประเทศเกาหลีใต้)
อินชอน เป็นอีกสนามบินที่อำนวยความสะดวกให้แก่นักเดินทางเป็นอย่างดี และที่นักเดินทางต่างชาติชื่นชอบก็คือบริเวณ ศูนย์วัฒนธรรมภายในสนามบิน ซึ่งที่นั่นคุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการประดิษฐ์งานศิลปหัตถกรรมขนานแท้และ ดั้งเดิมของชาวเกาหลี
ที่สำคัญภายในสนามบินอินชอนยังสะอาด สะอ้าน แถมเก้าอี้และเบาะนั่ง (นอน) ก็สะดวกสบาย มิหนำซ้ำยังมี “Jjimjilbang” (อ่างน้ำร้อน ฝักบัว ซาวน่า) ไว้คอยบริการ อุณหภูมิภายในสนามบินก็กำลังเหมาะ มีไฟสลัวในมุมที่เหมาะสม (มุมพักผ่อน)  ทั้งยังมีโทรศัพท์ พร้อมอินเตอร์เน็ต และ WiFi ไว้คอยบริการ
3.Hong Kong International Airport (สนามบินนานาชาติฮ่องกง)
ที่สนามบินฮ่องกง นักท่องเที่ยวสามารถเลือกจ่ายค่าบริการพิเศษสำหรับนอนพัก ทานอาหาร ดูทีวี เช็คอีเมล์ ภายในมุมสงบที่จัดเตรียมไว้ให้เป็นพิเศษ ซึ่งมีอาณาบริเวณที่กว้างขวาง ห้องน้ำสะอาด หรือจะเลือกใช้บริการ “Travellers Lounges” แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งจะมีมุมบริการอินเตอร์เน็ตฟรี พร้อม WiFi ตลอดจน ทีวี ม้านั่งยาว เก้าอี้ตัวใหญ่ ห้องอาบน้ำ และมุมสำหรับเด็กไว้คอยบริการ
แต่ข้อเสียก็คือ สนามบินแห่งนี้มักมีเสียงประกาศหนวกหูในเวลากลางคืน และอาจต้องเตรียมเสบียงเอาไว้บ้าง เพราะศูนย์อาหารและร้านขายเครื่องดื่มจะปิดบริการในเวลากลางคืน
4.Munich Airport (สนามบินมิวนิค -ประเทศเยอรมันนี)

สนามบินมิวนิค ไม่เพียงมีระบบบริหารจัดการภายในสนามบินที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของประเทศเยอรมนี หากยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จัดเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินระหว่างรอขึ้นเครื่องมากมายสมกับ ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นสนามบินดีที่สุดสำหรับการต่อเครื่องของฝั่งยุโรป ประจำปี 2009
นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานเช่น เดียวกับที่มีในสนามบินชั้นนำทั่วโลกแล้ว สนามบินแห่งนี้ยังมีบริการรถบัสและไกด์นำชมพื้นที่ต่างๆ ภายในสนามบินกว่า 40 จุดโดยต้องเสียค่าเข้าชม บริการชมภาพยนตร์ฟรี และยังมีสนามซ้อมพัตต์กอล์ฟ 18 หลุมไซส์มินิ ให้ทดสอบทักษะและสมาธิฆ่าเวลาอีกด้วย



5.Kuala Lumpur International Airport (สนามบินนานาชาติประเทศมาเลย์เซีย)


       ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (มาเลย์: Lapangan Terbang Antarabangsa Kuala Lumpur) ตั้งอยู่ที่เขตเซปัง รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย ห่างจากตัวเมืองกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 50 กิโลเมตร เป็นท่าอากาศยานหลักของมาเลเซียแอร์ไลน์, มาเลเซียแอร์ไลน์คาร์โก และแอร์เอเชีย
         มีแนวความคิดในการวางผัง คือ "ท่าอากาศยานในป่า ป่าในท่าอากาศยาน" ท่าอากาศยานได้ผนวกเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่สีเขียว และสิ่งแวดล้อมเข้าในส่วนของการออกแบบ ได้แก่ สวนป่าภายในอาคารผู้โดยสาร และที่จอดรถที่ถูกคลุมด้วยสวนหลังคา การเชื่อมโยงอาคารผู้โดยสารสองหลังด้วยรถไฟความเร็วสูง (Aerotrain)

10 อันดับสายการบินที่ดีที่สุด...

รายงาน!!

เครดิต - http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=travelsomewhere&month=02-08-2010&group=29&gblog=19





+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


มาดูกันเลยดีกว่าครับว่าผลการสำรวจปี 2010 นี้จะเป็นอย่างไร




10. Malaysia Airlines










Although it fell one spot from last year, it was given top prizes for "Best Economy Class" and "Staff Service Excellence in Asia."

มาเลเซ๊ยแอร์ไลน์ ปีนี้ตกลงไปหนึ่งอันดับจากปีที่แล้ว แต่ไดรับการ vote ให้ชนะเลิศในด้านชั้นประหยัด (Best Economy Class)







9. Thai Airways
















This airway (with the smallest fleet on the list) moved up from last year. Customers rave over its Bangkok airport lounge, which has a grand piano, massages and never-lacking bar.

สายการบินไทย ปีนี้ขยับอันดับขึ้นมาหน่อย และได้รับการ vote ให้ชนะเลิศในด้านการบริการที่แอร์พอร์ทด้วย (Best Airport services).







8. Emirates


















Despite dropping three spots from last year, the Emirates is considered to have the best in-flight entertainment for the sixth year in a row

อิมิเรทแอร์ ตกลงมาสามอันดับจากปีที่แล้ว แต่อิมิเรทก็ได้รับการเลือกให้ชนะเลิศในด้านการบันเทิงบนเครื่อง (Best Inflight Entertainment)








7. Qantas












Australia's oldest and largest airline continues its fall from the top, when it held second place in 2005.

สายการบินเก่าแก่ของออสเตรเลีย หล่นลงมาเรื่อยๆจากอันดับต้นๆ ที่เคยได้อันดับที่ 2 ในปี 2005 แต่ก็ยังชนะเลิศด้านความนิยมในชั้นประหยัด (Best Premium Economy Class).







6. Etihad Airways



















The Abu Dhabi-based airline received a leading spot in the first-class cabin and catering categories.

สายการบินน้องใหม่ของประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรท (UAE) ซึ่งมีฐานอยู่ที่อาบูดาบี ปีนี้ชนะเลิศในด้านชั้นหนึ่ง (Best First Class).








5. Air New Zealand











Voted "Best Carrier in Australia/Pacific," this carrier jumped three spots from last year.

แอร์นิวซีแลนด์ กระโดดขึ้นมา 3 อันดับจากปีที่แล้ว และได้รับการ vote ให้เป็นสายการบินชั้นยอดของกลุ่มออสเตรเลีย/แปซิฟิค (Best Airline : Australia / Pacific)








4. Cathay Pacific











As last year’s winner, Cathay Pacific’s fall has been attributed to its run-of-the-mill Economy Class. Still, it won "Best Transpacific Airline."

คาเท่ย์แปซิฟิค ของฮ่องกง ซึ่งเคยได้รับการโวทให้ได้รางวัลชนะเลิศเมื่อปีที่แล้ว แต่อันดับตกลงโดยให้เหตุผลว่าขาดการปรับแต่งในห้องผู้โดยสารชั้นประหยัด (run-of-the-mill Economic Class) แต่ก็ยังชนะเลิศในทรานแปซิฟิคแอร์ไลน์ ( Best Airline : Tranpacific)






3. Qatar Airways

















After redoing the interiors and improving service, Qatar Airlines has been steadily ascending the ranks. It was also voted to have the best food in Business Class.

กาตาร์แอร์เวย์ หลังจากที่ปรับปรุงภายในและการบริการแล้ว ก็ได้รับการโวทดีขึ้นเรื่อยๆ และปีนี้ชนะเลิศในเรื่องอาหารในชั้นธุรกิจด้วย (Best Business Class).







2. Singapore Airlines

















Known for its consistent service and plush seats, Singapore Airilnes nabbed second place for the second year in a row. It was also awarded, "World’s Best Cabin Staff," "Best Business Class Seat," and "Best Airline in Southeast Asia."

สิงคโปร์แอร์ไลน์ มีชื่อเสียงในเรื่องการบริการและเบาะที่นั่งที่ดี (เป็นกำมะหยี่) แต่ก็ยังถูกโวทให้อยู่อันดับที่ 2 อีกปี แต่สิงคโปร์แอร์ไลน์ยังได้รับการโวทให้ชนะเลิศถึง 3 ด้านด้วยกัน คือ พนักงานบนเครื่องที่ดีที่สุดในโลก (Wolld's Best Cabin Staff), ที่นั่งชั้นธุรกิจดีที่สุด ( Best Business Class Seat), และเป็นสายการบินที่ดีที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (Best Airline in Southeast Asia).






1. Asiana Airlines




















South Korea’s second-largest airline overthrew last year’s winner, Cathay Pacific (#4). On Asiana customers enjoy delectable Korean meals, wide-ranging in-flight entertainment and, most remarkably, flight attendants who can perform magic tricks.

เอเซียน่า สายการบินใหญ่อันดับ 2 ในเกาหลีใต้ ที่สามารถล้มยักษ์อย่างคาเท่ย์แปซิคฟิคที่ชนะเลิศในปีที่แล้วได้ ลูกค้าชาวเอเชียชื่นชอบอาหารเกาหลีบนเครื่องมาก มีบริการความบันเทิงมากมายบนเครื่อง และที่น่าทึ่งคือพนักงานต้อนรับบนเครื่องสามารถทำ magic tricks (ไม่รู้ว่าเธอทำอะไร อาจจะน่ารักมากกว่า.. จขบ.)


..หลายๆสายการบินที่ว่ามา จขบ.ว่าสูสีกัน อย่างสิงค์โปร์สมัยนี้น่าจะเทียบได้ตอนการบินไทยเป็นดาวรุ่ง คือเมื่อก่อนเรามีอย่างไร เดี๋ยวนี้บนเครื่องสิงคโปร์ก็มีแบบนั้น.... คาเท่ย์ เอเซียน่า อิมิเรท ก็สุดยอดทั้งนั้นครับ ส่วนสายการบินอื่น จขบ.ไม่แน่ใจเพราะสัมผัสน้อย....ใครเห็นต่างอย่างไร ก็เอามาแชร์กันนะครับ..




ที่มา : 
http://www.nydailynews.com/money/2010/05/27/2010-05-27_worlds_top_10_airlines_skytraks_2010_awards_announced.html(online July31, 2010)
http://www.worldairlineawards.com/main/2010Awards.htm (Online July 31, 2010)

ขอบคุณภาพสวยๆ จากเวปไซต์






ขอบคุณที่ตามอ่านครับ







__________ END __________

วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

สัญญานายหน้า


สัญญานายหน้า
นายหน้า ( brokerage / courtier) เป็นสัญญาประเภทสัญญามีชื่อ ซึ่งบุคคลฝ่ายหนึ่งตกลงจะให้ค่าบำเหน็จ (commission) แก่บุคคลอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเรียกว่า "นายหน้า" (broker) เพื่อตอบแทนการที่นายหน้าได้ชี้ช่องหรือจัดการให้เขาได้เข้าทำสัญญากับบุคคลอีกฝ่าย  สัญญานายหน้ากับสัญญาตั้งตัวแทน (agency) มีความคล้ายคลึงกัน ซึ่งหากไม่ทำความเข้าใจให้ดีอาจสลับสับสนกันได้ ภาษาปากในภาษาไทยมักเรียกนายหน้าโดยทับศัพท์จากคำ "broker" ในภาษาอังกฤษ ว่า "โบรเกอร์" หรือ "โบรก" เฉย ๆ
บทบัญญัติของกฎหมาย
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไทย
บรรพ 3 เอกเทศสัญญา, ลักษณะ 16 นายหน้า
"ม.845 บุคคลผู้ใดตกลงจะให้ค่าบำเหน็จแก่นายหน้าเพื่อที่ชี้ช่องให้ได้เข้าทำสัญญาก็ดี จัดการให้ได้ทำสัญญากันก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นจะต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จก็ต่อเมื่อสัญญานั้นได้ทำกันสำเร็จเนื่องแต่ผลแห่งการที่นายหน้าได้ชี้ช่องหรือจัดการนั้น ถ้าสัญญาที่ได้ทำกันไว้นั้นมีเงื่อนไขเป็นเงื่อนบังคับก่อนไซร้ ท่านว่าจะเรียกร้องบำเหน็จค่านายหน้ายังหาได้ไม่จนกว่าเงื่อนไขนั้นสำเร็จแล้ว นายหน้ามีสิทธิจะได้รับชดได้ค่าใช้จ่ายที่ได้เสียไปก็ต่อเมื่อได้ตกลงกันไว้เช่นนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้บังคับแม้ถึงว่าสัญญาจะมิได้ทำกันสำเร็จ"
ตามประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์เยอรมันนี (Buergerliches Gesetzbuch)
บรรพ 2 หนี้, ภาค 8 หนี้เฉพาะบางอย่าง, ลักษณะ 10 สัญญานายหน้า
อนุลักษณะ 1 บททั่วไป
"ม.652 (การเกิดสิทธิเรียกร้องค่าบำเหน็จ)
(1) บุคคลผู้ใดตกลงจะให้ค่าบำเหน็จแก่นายหน้าเพื่อที่ชี้ช่องให้ได้เข้าทำสัญญาก็ดี หรือจัดการให้ได้ทำสัญญากันก็ดี บุคคลผู้นั้นจะต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จก็ต่อเมื่อสัญญานั้นได้ทำกันสำเร็จเนื่องแต่ผลแห่งการที่นายหน้าได้ชี้ช่องหรือจัดการนั้น ถ้าสัญญาที่ได้ทำกันไว้นั้นมีเงื่อนไขบังคับก่อน ค่าบำเหน็จยังเรียกร้องกันมิได้จนกว่าเงื่อนไขนั้นสำเร็จแล้ว
(2) นายหน้ามีสิทธิจะได้รับการชดเชยค่าใช้จ่ายที่ได้เสียไปก็ต่อเมื่อได้ตกลงกันไว้เช่นนั้น ความข้อนี้ให้ใช้บังคับแม้ถึงว่าสัญญาจะมิได้ทำกันสำเร็จ"
อนุลักษณะ 2 สัญญานายหน้ากู้ยืมระหว่างวิสาหกรและผู้บริโภค
"ม.655ก (สัญญานายหน้ากู้ยืม)
สัญญาซึ่งวิสาหกรตกลงจะให้ค่าบำเหน็จแก่ผู้เป็นนายหน้าในสัญญากู้ยืมของผู้บริโภค หรือตกลงจะชี้ช่องแก่ผู้บริโภคให้ได้เข้าทำสัญญากู้ยืมของผู้บริโภค ย่อมใช้บังคับได้ตามบทบัญญัติต่อไปข้างหน้านี้ ภายในบังคับแห่งประโยคถัดมา. ความข้อนี้มิให้ใช้บังคับแก่การตาม ม.491 (2)."
อนุลักษณะ 3 : นายหน้าจัดหาคู่
"ม.656 (นายหน้าจัดหาคู่)
(1) บุคคลย่อมไม่ผูกพันเพราะตกลงจะให้ค่าบำเหน็จแก่นายหน้าที่ชี้ช่องให้ได้เข้าทำสัญญาสมรสก็ดี หรือเพราะเป็นนายหน้าจัดแจงการสมรสก็ดี สิ่งใดที่จ่ายไปตามคำมั่นเช่นว่าจะเรียกร้องเอาคืนมิได้เพราะผู้จ่ายจะผูกพันให้จ่ายก็หาไม่
(2) บทบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับแก่ความตกลงซึ่งบุคคลฝ่ายอื่นได้เข้าผูกพันกับนายหน้าเพื่อปฏิบัติตามคำมั่น รวมถึงการรับสภาพหนี้ด้วย"
เหตุผล
ไผทชิต เอกจริยกร ศาสตราจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อธิบายถึงเหตุที่บุคคลต้องจัดหานายหน้า ว่า
"การที่บุคคลหนึ่งต้องอาศัยนายหน้าเข้าทำการชี้ช่องให้มีการทำสัญญากัน แทนที่จะเข้าทำสัญญากับบุคคลใด ๆ โดยตรงนั้น ก็อาจเป็นเพราะว่าบุคคลดังกล่าวไม่ทราบหรือไม่สามารถจะติดต่อบุคคลอื่นใดให้เข้ามาทำสัญญากับตนได้ เพราะถ้าบุคคลนี้ทราบก็คงไม่ต้องอาศัยนายหน้าเข้ามาชี้ช่องให้ นายหน้าจึงเปรียบเสมือนคนกลางที่ทำให้บุคคลทั้งสองฝ่ายที่ต้องการทำสัญญากันมาพบ มารู้จัก และมาทำสัญญาในระหว่างกัน...
ส่วนทางด้านตัวนายหน้าเอง จะทำการเป็นนายหน้าก็เพื่อเป็นการช่วยเหลือบุคคลผู้ที่ต้องการจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สามารถทำการตามประสงค์ได้ ไม่ว่านายหน้าจะหวังบำเหน็จนายหน้าเป็นการตอบแทนหรือไม่ เพราะอาจจะเป็นเพื่อนหรือเป็นญาติก็ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว นายหน้ามักทำการด้วยประสงค์ที่จะได้รับค่าบำเหน็จ โดยเฉพาะนายหน้าในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ นายหน้าจัดหางาน หรือนายหน้าเกี่ยวกับการเช่าอสังหาริมทรัพย์"
องค์ประกอบ
คู่สัญญา
ประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 845
"บุคคลผู้ใดตกลงจะให้ค่าบำเหน็จแก่นายหน้าเพื่อที่ชี้ช่องให้ได้เข้าทำสัญญาก็ดี จัดการให้ได้ทำสัญญากันก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นจะต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จก็ต่อเมื่อสัญญานั้นได้ทำกันสำเร็จเนื่องแต่ผลแห่งการที่นายหน้าได้ชี้ช่องหรือจัดการนั้น ถ้าสัญญาที่ได้ทำกันไว้นั้นมีเงื่อนไขเป็นเงื่อนบังคับก่อนไซร้ ท่านว่าจะเรียกร้องบำเหน็จค่านายหน้ายังหาได้ไม่จนกว่าเงื่อนไขนั้นสำเร็จ แล้วนายหน้ามีสิทธิจะได้รับชดได้ค่าใช้จ่ายที่ได้เสียไปก็ต่อเมื่อได้ตกลงกันไว้เช่นนั้นความข้อนี้ท่านให้ใช้บังคับแม้ถึงว่าสัญญาจะมิได้ทำกันสำเร็จ"
กฎหมายไทย โดย ป.พ.พ. ม.845 บ่งบอกว่าคู่สัญญานายหน้ามีสองฝ่าย ฝ่ายแรก คือ ผู้ตกลงจะให้บำเหน็จแก่นายหน้าเพื่อตอบแทนการที่นายหน้าได้ชี้ช่องให้เขาได้เข้าทำสัญญากับบุคลอื่น และฝ่ายที่สอง คือ นายหน้าเอง อันทำหน้าที่ประหนึ่งคนกลางระหว่างสัญญาอีกฉบับหนึ่งซึ่งปรกติแล้ว บุคคลผู้เป็นนายหน้ามักเป็นบุคคลธรรมดา แต่หากนิติบุคคลจะเป็นนายหน้าบ้างก็ทำได้โดยผ่านผู้แทนของนิติบุคคลนั้น ๆ ตามหลักทั่วไป
กฎหมายไทยไม่ได้กำหนดว่าผู้เป็นนายหน้าได้ต้องมีความสามารถทำนิติกรรม นักกฎหมายไทยจึงเห็นต่างกันเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกว่า นายหน้าจะมีความสามารถทำนิติกรรม หรือไม่มี หรือมีแต่บกพร่อง เช่น เป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริต หรือคนล้มละลาย ก็ได้ เพราะปรกติแล้วนายหน้าไม่จำต้องรับผิดเป็นการส่วนตัวในสัญญาที่ตนเป็นสื่อให้เกิดขึ้น
กลุ่มที่สองซึ่งเป็นเสียงส่วนน้อย ว่านายหน้าเป็นสัญญาประเภทหนึ่ง จึงต้องบังคับตามหลักทั่วไปเกี่ยวกับสัญญาด้วย ดังนั้น ในเมื่อไม่มีกฎหมายยกเว้นเป็นพิเศษ จึงต้องนำหลักทั่วไปเรื่องความสามารถทำนิติกรรมมาใช้บังคับด้วย โดยถ้านายหน้ามีความสามารถดังกล่าวบกพร่อง สัญญานายหน้าจะเป็นโมฆียะ
วัตถุประสงค์แห่งสัญญา
"โจทก์จำเลยตกลงแบ่งเงินค่านายหน้าขายที่ดินคนละครึ่ง, บัดนี้ขายที่ดินได้แล้ว โจทก์จึงฟ้องแบ่งค่านายหน้าครึ่งหนึ่งในส่วนที่จำเลยยังไม่แบ่งให้. ฝ่ายจำเลยต่อสู้ว่า จำเลยเป็นผู้รับซื้อที่ดินเอง และนำสืบว่าจำเลยซื้อเองโดยเอาเงินของ อ. มาซื้อ, ชั้นแรกจะใส่ชื่อจำเลยเป็นผู้ซื้อแล้วทำจำนอง อ., แต่เห็นว่าเสียค่าธรรมเนียมมาก จึงลงนาม อ. เป็นผู้ซื้อ, แลได้ทำสัญญาไว้ว่า อ.จะขายให้จำเลยตามราคาที่ซื้อไว้ แต่จำเลยต้องส่งดอกเบี้ยให้ อ. ร้อยละ 8, ถ้าจำเลยชำระราคาที่ดินเสร็จ อ. จะโอนที่ให้, ถ้าจำเลยงดส่งดอกเบี้ย 3 เดือนหรือไม่ชำระราคาที่ดิน สัญญาเป็นอันยกเลิก.
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า หากจำเลยเป็นผู้ซื้อเอง ก็เห็นได้ว่า เป็นนายหน้าให้แก่ตัวเอง ซึ่งย่อมเป็นไปไม่ได้, ในสัญญาซื้อขายแลสัญญาระหว่างจำเลยกับ อ. ก็แสดงอยู่ในตัวชัดเจนว่าจำเลยมิได้เป็นผู้ซื้อ. ส่วนข้อฎีกาว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม จำเลยมิได้ยกขึ้นคัดค้านแต่ชั้นศาลล่าง, จึงไม่รับวินิจฉัย. จึงพิพากษายืนตามศาลล่างซึ่งพิพากษาให้จำเลยแบ่งค่านายหน้าให้โจทก์ตามฟ้อง."
คำพิพากษาศาลฎีกา 337/2478
กฎหมายไทย โดย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 845 บ่งบอกว่า สัญญานายหน้ามีวัตถุประสงค์เป็นการที่นายหน้าชี้ช่องให้ผู้วานนายหน้าได้เข้าทำกับบุคคลอื่น ซึ่งเป็นจุดต่างกับสัญญาตั้งตัวแทนที่ตัวแทนจะเข้าทำสัญญากับบุคคลอื่นแทนตัวการเลย
การเป็นนายหน้าให้ตนเองย่อมทำไม่ได้ บุคคลต้องเป็นนายหน้าให้ผู้อื่นเท่านั้นและสัญญาที่นายหน้าจะชี้ช่องให้ผู้วานนายหน้านั้นจะเป็นอะไรก็ได้ ไม่มีจำกัดเป็นสัญญาจะซื้อจะขายก็ได้

วัตถุแห่งสัญญา
วัตถุแห่งสัญญานายหน้า คือ ค่าบำเหน็จ (commission) ที่ผู้วานนายหน้าตกลงจะให้แก่นายหน้า หากไม่ได้ตกลงกันเรื่องนี้ จะเรียกค่าบำเหน็จกันมิได้เลย
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 นิยาม "บำเหน็จ" ว่า "รางวัล, ค่าเหนื่อย"ส่วน ดิกชันนารี.คอม นิยามคำภาษาอังกฤษ "commission" ว่า "เงินรวมหรืออัตราส่วนที่ให้แก่ตัวแทน ผู้แทน ฯลฯ เพื่อตอบแทนการบริการของเขา"
ถ้ามิได้ตกลงค่าบำเหน็จกันไว้ แต่ปรกติแล้วกิจการที่นายหน้ารับทำนั้นย่อมเป็นที่คาดหมายว่าเขาหวังเอาค่าบำเหน็จ ก็ให้ถือโดยปริยายว่าตกลงเรื่องค่าบำเหน็จกันแล้ว ดัง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 846 วรรค1 ว่า "ถ้ากิจการอันได้มอบหมายแก่นายหน้านั้น โดยพฤติการณ์เป็นที่คาดหมายได้ว่าย่อมทำให้แต่เพื่อจะเอาค่าบำเหน็จไซร้ท่าน ให้ถือว่าได้ตกลงกันโดยปริยายว่ามีค่าบำเหน็จนายหน้า"
ค่าบำเหน็จนี้ จะกำหนดเป็นจำนวนตายตัว เช่น หนึ่งแสนแปดหมื่นบาท หรือกำหนดเป็นร้อยละ เช่น ให้ได้รับค่าบำเหน็จร้อยละสามสิบจากเงินที่ผู้วานนายหน้าได้รับในการทำสัญญากับบุคคลอื่น ก็ได้ ถ้าไม่ได้ตกลงกำหนดจำนวนกันไว้ก็ให้ถือ "จำนวนตามธรรมเนียม" (usual remuneration) อันหมายความว่า จำนวนตามที่เคยให้กัน หรือตามที่ผู้คนทั่วไปให้กันโดยปรกติดังที่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 846 วรรค 2 ว่า "ค่าบำเหน็จนั้นถ้ามิได้กำหนดจำนวนกันไว้ ท่านให้ถือว่าได้ตกลงกันเป็นจำนวนตามธรรมเนียม"
อนึ่ง นักกฎหมายบางคนเห็นว่า สัญญานายหน้าต้องมีค่าบำเหน็จเสมอไป หากตกลงกันว่าไม่มีค่าบำเหน็จ สัญญาที่เกิดขึ้นย่อมไม่ใช่สัญญานายหน้า
แบบ
กฎหมายไทยมิได้กำหนด "แบบ" ( form) สำหรับสัญญานายหน้าเอาไว้ ดังนั้น สัญญานายหน้าเมื่อตกลงกันได้ก็เกิดขึ้นบริบูรณ์ทันทีตามข้อตกลงนั้น แม้เป็นเพียงการตกลงด้วยวาจา มิได้ทำเป็นหนังสือก็ตาม

ผล
ความรับผิดของนายหน้าเกี่ยวกับสัญญาที่ตนเป็นสื่อ
"ตัวนายหน้าไม่ต้องรับผิดไปถึงการชำระหนี้ตามสัญญาซึ่งได้ทำต่อกันเพราะตนเป็นสื่อ เว้นแต่จะมิได้บอกชื่อของฝ่ายหนึ่งให้รู้ถึงอีกฝ่ายหนึ่ง"
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 848
ตามกฎหมายไทย โดย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 848 แล้ว นายหน้าไม่ต้องรับผิดในสัญญาที่ตนเป็นสื่อให้เกิดขึ้น เพราะนายหน้ามิได้เกี่ยวข้องกับสัญญานั้นโดยตรง เว้นแต่คู่สัญญาดังกล่าวไม่ทราบนามของคู่สัญญาอีกฝ่าย เพราะนายหน้าไม่ยอมบอก อันทำให้คู่สัญญาฝ่ายนั้นไม่ทราบจะไปบังคับชำระหนี้กับใคร และเพื่อป้องกันนายหน้าทุจริตด้วยโดยนายหน้าต้องรับผิดในสัญญาที่ตนเป็นสื่อให้เกิดขึ้นนั้นแทน แต่มิใช่รับผิดในสัญญานายหน้า
"ชื่อ" ในถ้อยคำ "...มิได้บอกชื่อของฝ่ายหนึ่งให้รู้ถึงอีกฝ่ายหนึ่ง" (...has not communicated the name of a party to the other party.") หมายถึง ชื่อและชื่อสกุลของคู่สัญญาแต่ละฝ่ายตามที่ปรากฏในทะเบียนของทางราชการ เช่น ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสำมะโนครัว บัตรประจำตัวประชาชน ฯลฯเพราะการฟ้องร้องบังคับคดีกันต้องใช้ชื่อตามทะเบียนเช่นนี้
ไผทชิต เอกจริยกร ศาสตราจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงเหตุผลที่กฎหมายบัญญัติเรื่องนายหน้าไม่เปิดเผยชื่อคู่สัญญาแต่ละฝ่ายให้กันทราบ ว่า "...ดูเหมือนว่าเป็นเรื่องแปลกที่นายหน้าทำไมไม่เปิดเผยชื่อให้อีกฝ่ายรู้ จะปิดเงียบ ๆ ทำไม ในเรื่องนี้คิดไปได้ว่า นายหน้าอาจจะกลัวว่าหากเปิดเผยชื่อให้แต่ละฝ่ายทราบ นายหน้าอาจจะไม่ได้รับบำเหน็จนายหน้า โดยถ้าหากคู่สัญญาจะแอบไปทำสัญญากันเอง"

สิทธิของนายหน้าเกี่ยวกับสัญญาที่ตนเป็นสื่อ
ในสัญญาที่นายหน้าเป็นสื่อให้เกิดขึ้นระหว่างผู้วานนายหน้ากับบุคคลอื่น หากต้องมีการรับเงินหรือชำระหนี้ กฎหมายไทยให้ "สันนิษฐานไว้ก่อน" ว่านายหน้าไม่มีอำนาจทำการเช่นนั้นแทนผู้วานนายหน้าซึ่งเป็นคู่สัญญา ดัง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 848 ว่า "การรับเงินหรือรับชำระหนี้อันจะพึงชำระตามสัญญานั้น ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่านายหน้าย่อมไม่มีอำนาจที่จะรับแทนผู้เป็นคู่สัญญา" ทั้งนี้ เนื่องจากนายหน้ามีหน้าที่เพียงเป็นสื่อให้ผู้วานนายหน้าได้ทำสัญญากับบุคคลอื่น และนายหน้าที่ก็มิใช่ตัวแทนของผู้วานนายหน้าด้วย นายหน้าจึงไม่ควรสอดเรื่องอันมิใช่กงการของตน
คำว่า "สันนิษฐานไว้ก่อน" หมายความว่า สามารถพิสูจน์หักล้างได้ เช่น นายหน้าอาจนำสืบว่าผู้วานนายหน้ามอบหมายให้ตนทำหน้าที่รับชำระหนี้แทนเขาก็ได้

สิทธิของนายหน้าตามสัญญานายหน้า
"บุคคลผู้ใดตกลงจะให้ค่าบำเหน็จแก่นายหน้าเพื่อที่ชี้ช่องให้ได้เข้าทำสัญญาก็ดี จัดการให้ได้ทำสัญญากันก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นจะต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จก็ต่อเมื่อสัญญานั้นได้ทำกัน สำเร็จเนื่องแต่ผลแห่งการที่นายหน้าได้ชี้ช่องหรือจัดการนั้น ถ้าสัญญาที่ได้ทำกันไว้นั้นมีเงื่อนไขเป็นเงื่อนบังคับก่อนไซร้ ท่านว่าจะเรียกร้องบำเหน็จค่านายหน้ายังหาได้ไม่จนกว่าเงื่อนไขนั้นสำเร็จแล้ว
นายหน้ามีสิทธิจะได้รับชดได้ค่าใช้จ่ายที่ได้เสียไปก็ต่อเมื่อได้ตกลงกันไว้ เช่นนั้นความข้อนี้ท่านให้ใช้บังคับแม้ถึงว่าสัญญาจะมิได้ทำกันสำเร็จ"
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 845
"ถ้านายหน้าทำการให้แก่บุคคลภายนอกด้วยก็ดี หรือได้รับคำมั่นแต่บุคคลภายนอกเช่นนั้นว่าจะให้ค่าบำเหน็จอันไม่ควรแก่นายหน้าผู้กระทำการโดยสุจริตก็ดี เป็นการฝ่าฝืนต่อการที่ตนเข้ารับทำหน้าที่ไซร้ ท่านว่านายหน้าหามีสิทธิจะได้รับค่าบำเหน็จหรือรับชดใช้ค่าใช้จ่ายที่ได้ เสียไปไม่"
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 847
สิทธิได้รับค่าบำเหน็จ
ด้วยบทบัญญัติ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 845 วรรค 1 ผู้วานนายหน้าต้องจ่ายค่าบำเหน็จตามจำนวนที่ตกลงไว้ให้แก่นายหน้าเมื่อนายหน้าทำตามสัญญานายหน้าจนสำเร็จ กล่าวคือ เมื่อนายหน้าเป็นสื่อให้ผู้วานนายหน้าได้เข้าทำสัญญากับบุคคลอื่นจนสำเร็จแล้ว
ที่ว่า "จนสำเร็จ" มิได้หมายความถึงขนาดที่สัญญาระห่างผู้วานนายหน้ากับบุคคลอื่นจะเรียบร้อยบริบูรณ์เต็มขั้น เป็นแต่ทั้งสองตกลงผูกมัดกันเกิดเป็นสัญญา แม้รายละเอียดปลีกย่อยบางเรื่องยังมิได้ตกลงหรือทำกัน ก็ถือว่านายหน้าบรรลุหน้าที่ของตนแล้ว เรียกค่าบำเหน็จได้ แม้ต่อมาภายหลังคนทั้งสองนั้นจะไม่มาทำสัญญากัน หรือต่างผิดสัญญากันก็ตาม
เมื่อนายหน้าทำหน้าที่จนเกิดสัญญาตามที่ตนชี้ช่องแล้ว และสัญญานั้นมีกำหนดเงื่อนไขบังคับก่อน (condition precedent) นายหน้ายังเรียกเอาค่าบำเหน็จไม่ได้จนกว่าเงื่อนไขนั้นจะบรรลุแล้ว เช่น สัญญาซื้อขายที่ ก กับ ข ทำด้วยเพราะเหตุที่ ค นายหน้าของ ก เป็นสื่อให้ มีเงื่อนไขว่ากรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ซื้อขายจะยังไม่โอนไปจนกว่าบุตรของ ก จะสอบไล่ได้ที่หนึ่ง เช่นนี้แล้ว จนกว่าบุตรของ ก จะสอบไล่ได้ที่หนึ่ง ค ก็ยังเรียกค่าบำเหน็จมิได้
หากในการเป็นสื่อกลางของนายหน้า ผู้วานนายหน้ากับบุคคลอื่นตกลงกันไม่ได้ หรือเปลี่ยนใจไม่ผูกนิติสัมพันธ์กันก็ดี หรือเมื่อนายหน้าเป็นสื่อกลางเรียบร้อยด้วยดีแล้ว แต่สุดท้ายผู้วานนายหน้ากับบุคคลอื่นไม่ทำสัญญากันก็ดี หรือนายหน้าทำหน้าที่ไม่เสร็จภายในกำหนดเวลาตามสัญญานายหน้าในกรณีที่มีกำหนดไว้ก็ดี นายหน้าไม่มีสิทธิเรียกค่าบำเหน็จ เว้นแต่ผู้วานนายหน้ากับนายหน้าจะตกลงกันว่า แม้งานไม่สำเร็จ แต่ก็ให้นายหน้าได้รับบำเหน็จเต็มจำนวนหรือเป็นจำนวนเท่านี้เท่านั้น
ในบางกรณีมีสัญญาเกิดขึ้นโดยอ้อมจากการชี้ช่องของนายหน้า เช่น ก เป็นนายหน้าให้ ข กับ ค ทำสัญญากัน เจรจากันเสร็จแล้ว ข ไม่เห็นชอบด้วยจึงไม่ทำสัญญากับ ค เผอิญว่า ง มาได้ยินเข้าจึงเข้าทำสัญญากับ ค แทน เช่นนี้แล้ว เมื่อมีคดีขึ้นสู่ศาลไทย ศาลมักพิพากษาให้ ง ต้องจ่ายค่าบำหน็จให้แก่ ก ในฐานะเป็นนายหน้า เพราะจัดว่า ง ได้ล่วงรู้ช่องทำสัญญามาจาก ก
สิทธิได้รับคืนซึ่งค่าใช้จ่าย
ด้วยบทบัญญัติ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 845 วรรค 2 ค่าใช้จ่ายที่นายหน้าเสียไปในการทำหน้าที่ จะเรียกจากผู้วานนายหน้าได้ก็ต่อเมื่อตกลงกันไว้เท่านั้นซึ่งหากตกลงกันไว้ นายหน้าก็เรียกค่าใช้จ่ายได้แม้ว่าสัญญาที่นายหน้าเป็นสื่อให้จะยังทำกันไม่สำเร็จ (ต้นร่างภาษาอังกฤษของ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่า "even if a contract is not concluded" แปลว่า "แม้สัญญายังมิได้ตกลงกัน" ส่วนเบอร์แกร์ลิชส์เกเซทซ์บุคของเยอรมันว่า "even if a contract does not come about" แปลว่า "แม้สัญญาจะยังไม่อุบัติ")
ค่าใช้จ่ายข้างต้น เช่น "...ค่าพาหนะ ค่าโทรศัพท์ เพื่อให้มีการติดต่อระหว่างคู่สัญญา ค่าอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ค่าเลี้ยงดู..." โดยหากนายหน้าทำหน้าที่ไม่สำเร็จ เขาต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้เอง

กรณีหมดสิทธิได้รับบำเหน็จและค่าใช้จ่าย
"จำเลยตกลงขายที่ดินของตนให้แก่กระทรวงการคลังตามที่โจทก์ผู้เป็นนายหน้าของจำเลยติดต่อให้ ทั้งที่จำเลยวางมัดจำทำสัญญาไว้กับ ค ว่าจะซื้อขายที่ดินผืนนั้นด้วยกัน แต่อย่างไรก็ดี ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับบำเหน็จจาก ค หรือโจทก์กระทำการไม่สุจริตแต่อย่างใด ถือมิได้ว่าโจทก์ไม่ปฏิบัติให้สำเร็จหรือได้ทำหน้าที่ให้แก่บุคคลภายนอกอันเป็นการฝ่าฝืนหน้าที่ของโจทก์ในฐานะเป็นนายหน้าให้จำเลยแต่อย่างใด"
คำพิพากษาศาลฎีกา 326-328/2518
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 847 ว่า "ถ้านายหน้าทำการให้แก่บุคคลภายนอกด้วยก็ดี หรือได้รับคำมั่นแต่บุคคลภายนอกเช่นนั้นว่าจะให้ค่าบำเหน็จอันไม่ควรแก่นายหน้าผู้กระทำการโดยสุจริตก็ดี เป็นการฝ่าฝืนต่อการที่ตนเข้ารับทำหน้าที่ไซร้ ท่านว่านายหน้าหามีสิทธิจะได้รับค่าบำเหน็จหรือรับชดใช้ค่าใช้จ่ายที่ได้เสียไปไม่" ("A broker is not entitled to remuneration or to reimbursement of his expenses if, contrary to his engagement, he has acted also for the third party or has been promised by such third party a remuneration which is not consistent with the broker acting in good faith.")
หมายความว่า ในเหตุการณ์นี้มีบุคคลสามฝ่าย ฝ่าย 1 เป็นนายหน้าชี้ช่องให้ฝ่าย 2 ได้ทำสัญญากับฝ่าย 3 และกลับกัน ฝ่าย 1 นั้นยังเป็นนายหน้าชี้ช่องให้ฝ่าย 3 ได้ทำสัญญากับฝ่าย 2 ด้วย เพื่อฝ่าย 1 ซึ่งเป็นนายหน้าจะได้รับค่าบำเหน็จจากทั้งฝ่าย 2 และฝ่าย 3 หากสมประโยชน์แก่ทั้งฝ่าย 2 และ 3แต่หากการรับงานซ้ำซ้อนกันเช่นนี้ส่งผลให้ฝ่าย 2 หรือ 3 ต้องเสียหาย อันกล่าวได่ว่า นายหน้ารับค่าบำเหน็จซึ่งปรกติแล้วนายหน้าผู้สุจริตจะไม่รับกัน จัดเป็นการฝ่าฝืนต่อหน้าที่นายหน้า เช่นนี้แล้ว นายหน้าจะหมดสิทธิได้รับค่าบำเหน็จและค่าใช้จ่ายจากฝ่ายที่เสียหายนั้น
เช่น ก ต้องการขายพระเครื่อง จึงติดต่อ ข ให้ช่วยหาคนมาซื้อพระเครื่องตนสักหน่อย, จังหวะเดียวกัน ข ทราบว่า ค กำลังอยากได้พระเครื่องอยู่พอดี จึงเสนอกับ ค ว่าตนจะช่วยหาคนมาขายพระเครื่องให้, และ ข ก็ชี้ช่องให้ ก กับ ค มาทำสัญญาซื้อขายกัน โดยตกลงกันว่า ก จะจ่ายค่าบำเหน็จให้ ข หนึ่งแสนบาท และ ค จะจ่ายค่าบำเหน็จให้ ข เก้าหมื่นบาท, เช่นนี้แล้ว เห็นได้ว่า การที่ ข เป็นนายหน้าควบระหว่าง ก กับ ค ไม่ทำให้ประโยชน์ของ ก และ ค เสียไป กับทั้งไม่ฝ่าฝืนหน้าที่อันพึงกระทำดังนายหน้าผู้สุจริตด้วย, ข จึงมีสิทธิได้รับบำเหน็จจากทั้ง ก และ ค นั้น, ก หรือ ค จะปฏิเสธว่า ข เป็นนายหน้าควบ ไม่จ่ายค่าบำเหน็จให้มิได้

ความระงับสิ้นลง
กฎหมายไทยมิได้กำหนดอาการที่สัญญานายหน้าจะระงับสิ้นลงไว้โดยเฉพาะ เช่นนี้ จึงเป็นไปตามบทบัญญัติทั่วไปอันว่าด้วยความระงับแห่งสัญญา โดยสัญญานายหน้าย่อมสิ้นลงเพราะวัตถุประสงค์แห่งสัญญาได้บรรลุแล้ว กล่าวคือ เมื่อนายหน้าได้ทำหน้าที่ของตนจนลุล่วงเรียบร้อย
อาจสิ้นลงเพราะในสัญญากำหนดไว้ เช่น ให้สิ้นลงเมื่อพ้นกำหนดสิบเดือนนับแต่วันทำสัญญา หรือให้สิ้นลงเมื่อนายหน้าทำหน้าที่ไม่สำเร็จภายในกำหนดสิบเดือนนับแต่วันทำสัญญา นอกจากนี้ สัญญานายหน้ายังอาจสิ้นลงหากถูกบอกเลิกโดยคู่สัญญาที่มีสิทธิ หรือคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงเลิกสัญญากันก็ได้

อายุความ
เมื่อนายหน้าทำหน้าที่จนลุล่วงแล้ว ย่อมมีสิทธิได้รับค่าบำเหน็จนายหน้าและค่าใช้จ่ายที่ตนเสียไปตามที่ตกลงกับผู้วานนายหน้าไว้ หากผู้วานนายหน้าบิดพลิ้วไม่จ่ายให้ นายหน้ามีทางแก้ไขทางเดียวคือฟ้องเป็นคดีต่อศาล และกฎหมายไทยไม่ได้กำหนดอายุความสำหรับการฟ้องคดีเช่นนี้ไว้เป็นพิเศษ จึงต้องใช้อายุความทั่วไปอันมีกำหนดสิบปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30 ซึ่งว่า "อายุความนั้น ถ้าประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นมิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะ ให้มีกำหนดสิบปี"
คำพิพากษาศาลฎีกา138/2502 จำเลยทำสัญญากับโจทก์ ให้โจทก์เป็นนายหน้าชี้ช่องจัดการให้จำเลยทำสัญญาเปิดเครดิตเงินปอนด์กับธนาคาร โดยจำเลยสัญญาจะจ่ายค่านายหน้าในอัตราปอนด์ละ 15 บาท โจทก์ได้ปฏิบัติตามสัญญาแล้ว แต่จำเลยไม่ยอมจ่ายค่านายหน้าให้ตามสัญญา ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยชำระเงินให้แก่โจทก์ 108,300 บาท และดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี จำเลยฎีกาว่า คดีโจทก์ขาดอายุความสองปีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (7) [ปัจจุบันคือ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34 (7) ซึ่งบัญญัติว่า ผู้ประกอบธุรกิจจะเรียกสินจ้างให้ฟ้องเป็นคดีภายในสองปี] ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ใช้เวลาว่างจากการงานประจำมาหารายได้ชั่วครั้งชั่วคราวด้วยการเป็นนายหน้า ไม่ใช่ประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าเป็นปรกติ ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่า คดีโจทก์ไม่อยู่ในกำหนดอายุความสองปีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา  165 (7) แต่มีอายุความทั่วไป คือ สิบปีนั้น ชอบแล้ว เมื่อฟ้องโจทก์ยังไม่พ้นอายุความสิบปี คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ ศาลฎีกาพิพากษายืน
ผไทชิต เอกจริยกร ศาสตราจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงปัญหาการฟ้องร้องเรื่องนายหน้าในประเทศไทย ว่า
"เรื่องที่เป็นปัญหามากที่สุดที่เกิดขึ้นในทางปฏิบัติกันเสมอจนมีการฟ้องร้องกันอยู่เนือง ๆ ก็คือ เมื่อนายหน้าได้ชี้ช่องให้คู่สัญญาได้พบได้ทำสัญญากัน นายหน้ามักจะถูกคู่สัญญาบิดพลิ้วไม่ยอมชำระบำเหน็จนายหน้า โดยไปแบทำสัญญากันลับ ๆ ไม่ให้นายหน้าทราบ เพื่อหลีกเลี่ยงการชำระค่านายหน้า และจะได้เอาเงินส่วนที่เป็นบำเหน็จนายหน้าไปเป็นส่วนลดของราคาซื้อขายเพื่อเป็นการประหยัด [ในกรณีที่สัญญาอันนายหน้าเป็นสื่อให้เกิดขึ้นนั้นเป็นสัญญาซื้อขาย] เพราะเห็นว่านายหน้าไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงชี้ช่องเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยลืมไปว่าถ้าไม่มีนายหน้าแล้ว สัญญานั้น ๆ ก็คงจะไม่เกิดขึ้น..."